มะเร็งกระเพาะอาหาร พฤติกรรมร้ายกว่ากรรมพันธุ์ (ตอน 1)

มะเร็งกระเพาะอาหาร พฤติกรรมร้ายกว่ากรรมพันธุ์(ตอน 1)



            แม้ว่าผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้สูงกว่าผู้ที่ไม่มีพันธุกรรม แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต โดยเฉพะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมดูจะเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่า ผศ.นพ.กสานติ์ สีตลารมณ์ กรรมการบริหารมะเร็งวิทยาสมาคม แห่งประเทศไทยและแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า จึงแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวให้ห่างไกลจากมะเร็งชนิดนี้



พันธุกรรมกับพฤติกรรมอย่างไหนมีผลต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมากกว่ากัน?



          คงต้องบอกว่าผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมหรือคิดเป็น 2 ใน 3 ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดโดยเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร การสูบบุหรี่ การไม่ยอมออกกำลังกาย ความอ้วน การดื่มเหล้า ส่วนที่เหลือ 1 ใน 3 ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งป้องกันได้ยาก ส่วน สาเหตุจากกรรมพันธุ์นั้นเกิดขึ้นน้อยมากคือคิดเป็นเพียงร้อยละ 5-10 ของผู้ป่วยเท่านั้น ดังนั้นการแก้พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ได้ ด้วยการหันมาเลือกกินผักและผลไม้ให้เยอะหน่อย เพิ่มการออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารและมะเร็งชนิดอื่นๆ ลงไปได้เยอะมากทีเดียว เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อการเป็นมะเร็งทั้งสิ้น



อาหารอะไรที่ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร?



          อาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ผ่านการถนอมอาหารอย่างพวกไส้กรอก เบค่อน รวมทั้งเนื้อสัตว์ที่ถนอมด้วยการใส่เกลือ ดินประสิว เพราะอาหารเหล่านี้ผ่านการรมควัน และหมักด้วยเกลือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดินประสิวที่มีสารไนเตรท เมื่อสารนี้เข้าไปผสมกับโปรตีนจะกลายเป็นสารไนโตรซามีน อันเป็นสารก่อมะเร็ง หากได้รับอยู่เรื่อยๆ  จะทำให้เซลล์ในกระเพาะอาหารเปลี่ยนเป็นเซลล์ร้ายได้ รวมถึงเนื้อสัตว์ที่ปิ้งหรือย่างจนไหม้เกรียม เช่น หมูย่าง ไก่ย่าง ก็มีสารก่อมะเร็งด้วย



ควรกินอาหารอย่างไรเพื่อป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร?



          มะเร็งกระเพาะอาหารสามารถป้องกันได้โดยการกินผักผลไม้ทุกมื้อ โดยในอาหาร 1 จานควรจะมีผักสักครึ่งจานแป้ง 1 ใน 3 ส่วนที่เหลือเสี้ยวเล็กๆ ก็เป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โดยการกินเนื้อปลาและเนื้อไก่ไม่ติดหนัง จะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งน้อยกว่าการกินเนื้อหมูหรือเนื้อวัว และการประกอบอาหารด้วยการอบหรือนึ่งจะทำให้เสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารน้อยกว่าการทอด หรือการรมควันและหมักเกลือ ซึ่งวิธีหลังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารมากที่สุด ที่สำคัญ การลดเนื้อสัตว์ นอกจากลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย เพราะช่วยลดปริมาณแคลอรี่ลง ส่งผลไม่ให้อ้วน ซึ่งความอ้วนเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น



การออกกำลังกายอย่างไรจึงจะช่วยป้องกันมะเร็ง?



          การออกกำลังกายที่จะช่วยป้องกันมะเร็ง คือต้องออกกำลังกายให้น้ำหนักลด โดยควรทำครั้งละ 30 นาที ประมาณ 5 ครั้ง/สัปดาห์ ระหว่างออกกำลังกายหัวใจต้องเต้นเร็วและแรง คือให้ชีพจรเต้นประมาน 100-110 ครั้ง/นาที (ปกติชีพจรจะเต้นประมาณ 80-90 ครั้ง/นาที) สังเกตได้จากเสียงการเต้นของหัวใจที่ดังตึกตัก การออกกำลังกายลักษณะเช่นนี้จึงจะถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยผมขอแนะนำว่าถ้าอยากจะออกกำลังกายด้วยการเดินก็ควรเดินเร็วๆ หรือถ้าจะทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ต้องให้เหนื่อย เพราะถ้าไม่เหนื่อย ร่างกายก็จะเผาผลาญแคลอรี่ ได้ไม่เท่าไหร่



  




  • ด้วยความปรารถนาดีจาก โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ? ใส่ใจค้นหา บำบัดรักษาโรคมะเร็งให้คุณ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 054 ? 335262 ? 8 ต่อ187



Date :

©2015, โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง

ที่อยู่ 199 หมู่.12 ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง 52000
โทรศัพท์ 054-335262-8 โทรสาร 054-335273
email : saraban@lpch.go.th